ตามที่เกิดการปะทะบริเวณชายแดนระหว่างกองกำลังของกัมพูชาและกองทัพไทย ซึ่งทวีความตึงเครียดและขยายขอบเขตการโจมตีเข้ามาในพื้นที่ชุมชนพลเรือนในราชอาณาจักรไทย นั้น สมาคมสิทธิเสรีภาพของประชาชน (สสส.) ขอแสดงจุดยืนต่อสถานการณ์ดังกล่าว และขอเสนอข้อเรียกร้อง ดังนี้
การที่กองกำลังทหารกัมพูชาใช้อาวุธโจมตีฐานปฏิบัติการ ชุมชน รวมถึงสถานพยาบาลและโครงสร้างพื้นฐานที่มิใช่เป้าหมายทางทหารในเขตประเทศไทย รวมถึงการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ถือเป็นการละเมิดหลักการสำคัญแห่งกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ (International Humanitarian Law or IHL) ตามอนุสัญญาเจนีวา 1949, พิธีสารเพิ่มเติมฉบับที่ 1, อนุสัญญาออตตาว่า 1997 และกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ ตามจารีตประเพณี อันเน้นให้คู่กรณีการขัดกันทางอาวุธโจมตีเป้าหมายทางทหารเป็นสำคัญเพื่อไม่ให้กระทบต่อผู้ที่ไม่ใช่พลรบและห้ามการใช้อาวุธอันก่อให้เกิดความทุกข์ทรมานเกินกว่าเหตุ
ขอให้รัฐบาลไทยยึดมั่นในหลักความได้สัดส่วน (proportionality) และแยกแยะเป้าหมายพลเรือนกับเป้าหมายทางทหารอย่างเคร่งครัดอันสอดคล้องกับหลักการตามกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศตามอนุสัญญาเจนีวา ค.ศ. 1949 และกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศตามจารีตประเพณี ทั้งนี้ การใช้กำลังทางทหารเกินกว่าเหตุ ไม่เพียงขัดกับหลักกฎหมายระหว่างประเทศ แต่ยังบั่นทอนความชอบธรรมของไทยในเวทีโลก
ประกาศช่วงเวลาเริ่มต้นการหยุดยิงทันทีตามที่ตกลงกัน เพื่อแสดงให้เห็นความจริงจังและเจตจำนงทางการเมือง (Political Will) ในการพร้อมเข้าสู่การเจรจายุติความรุนแรงผ่านกลไกแบบทวิภาคีที่สำคัญในการจัดการข้อพิพาทชายแดนที่มีอยู่ คือ คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (Joint Boundary Commission หรือ JBC) คณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา (General Border Committee หรือ GBC) และคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (Regional Border Committee หรือ RBC) และกลไกระดับทวิภาคีอื่นๆที่เกี่ยวข้อง
สสส.ขอให้การปกป้องอธิปไตยของชาติ เป็นไปโดยไม่ละทิ้งหลักแห่งความยุติธรรมและมนุษยธรรมตามหลักกฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศและกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ เพื่อให้ประเทศไทยยังคงเป็นสมาชิกที่มีศักดิ์ศรีในสายตาประชาคมโลก
เชื่อมั่นในศักดิ์ศรีของมนุษย์ สิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตย
28 กรกฎาคม 2558
สมาคมสิทธิเสรีภาพของประชาชน (สสส.) Union for Civil Liberty (UCL.)