กลุ่มประชาสังคมเรียกร้องให้ลาวกับไทยสอบสวนการถูกบังคับสูญหาย เปิดเผยชะตากรรมของสมบัติ สมพอน และออด สายะวง
วันที่ 15 ธันวาคม 2562 นี้เป็นวันครบรอบเจ็ดปีการถูกบังคับสูญหายของนายสมบัติ สมพอน ผู้นำประชาสังคมชาวลาว เรา องค์กรที่ร่วมลงนามท้ายคำแถลงนี้ ขอเรียกร้องให้รัฐบาลลาวและรัฐบาลไทยสอบสวนการถูกบังคับสูญหาย และเรียกร้องให้ทางการเวียง จันทน์ เปิดเผยในที่สุดถึงสถานที่อยู่ของสมบัติ และทำให้แน่ใจว่าเขาและครอบครัวได้รับความยุติธรรม
เมื่อพิจารณาถึงความล้มเหลวอย่างยืดเยื้อยาวนานของตำรวจลาวในการสอบสวนอย่างมีประสิทธิผลต่อการถูกบังคับสูญหายของสมบัติแล้ว จึงเห็นควรให้มีการตั้งหน่วยสอบสวนใหม่ที่เป็นอิสระและไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดขึ้นอย่างไม่ล่าช้ามาทำภารกิจในการค้นหาว่า ชะตากรรมของสมบัติเป็นเช่นไรและเขาอยู่ที่ไหน หน่วยใหม่นี้ควรมีอำนาจที่จะเสาะหาและได้รับความช่วยเหลือทางเทคนิคจากนานาชาติ เพื่อที่จะทำการสอบสวนอย่างเป็นมืออาชีพ เป็นอิสระ ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด และมีประสิทธิผล ตามมาตรฐานสากล
มีผู้พบเห็นสมบัติเป็นครั้งสุดท้ายที่ด่านตรวจของตำรวจบนถนนสายหนึ่งที่วุ่นวายในนครเวียงจันทน์ เมืองหลวงของลาว ตอนเย็นของวันที่ 15 ธันวาคม 2555 ภาพบันทึกจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดแสดงว่าพาหนะของสมบัติถูกหยุดที่ด่านตรวจแห่งนั้น และภายในเวลาเพียงไม่กี่นาที บุคคลที่ไม่ทราบว่าเป็นใครบังคับเขาเข้าไปในยานพาหนะอีกคันและขับพาเขาออกไปต่อหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจ ภาพบันทึกจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดยังแสดงให้เห็นบุคคลที่ไม่ทราบว่าเป็นใครขับยานพาหนะของสมบัติออกไปจากใจกลางเมืองด้วย การมีเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ขณะที่มีการลักพาตัวสมบัติไปและความล้มเหลวของพวกเขาที่จะเข้าแทรกแซงอย่างแข็งขันบ่งชี้การมีส่วนร่วมของหน่วยงานรัฐในการถูกบังคับสูญหายของสมบัติ
ทางการลาวได้กล่าวอ้างซ้ำแล้วซ้ำอีกว่าพวกเขาได้สอบสวนการถูกบังคับสูญหายของสมบัติ แต่ได้ล้มเหลวที่จะเปิดเผยการค้นพบใหม่ใดๆ ต่อสาธารณะชนนับแต่วันที่ 8 มิถุนายน 2556 เป็นต้นมา พวกเขาพบกับชุยเหมิงอึ้ง ภรรยาของสมบัติ เพียงสองครั้งนับแต่เดือนมกราคม 2556 ครั้งสุดท้ายในเดือนธันวาคม 2560 ตำรวจไม่เคยแบ่งปันข้อมูลที่เป็นสาระสำคัญใดเกี่ยวกับการสอบสวนให้กับครอบครัวของสมบัติ บ่งชี้ว่า ด้วยความตั้งใจและความมุ่งหมายทั้งปวง การสอบสวนของตำรวจถูกพักไปแล้วโดยพฤตินัย
เราเรียกร้องด้วยให้รัฐบาลลาวและรัฐบาลไทยแก้ไขกรณีการถูกบังคับสูญหายทุกกรณีในประเทศของตน กรณีล่าสุดคือกรณีของออด สายะวง ผู้ลี้ภัยชาวลาวที่อยู่ในกรุงเทพฯ ซึ่งหายตัวไปตั้งแต่วันที่ 26 สิงหาคม 2562 ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ออดได้เข้าร่วมทางสาธารณะในการดึงความสนใจไปที่การละเมิดสิทธิมนุษยชนและการฉ้อโกงในลาว และพบกับผู้สื่อข่าวพิเศษด้านความยากจนสุดขีดและสิทธิมนุษยชนขององค์การสหประชาชาติเมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2562 ในกรุงเทพฯ ก่อนหน้าที่ผู้สื่อข่าวพิเศษดังกล่าวจะมีภาระกิจไปเยือนลาว คณะทำงานว่าด้วยการถูกบังคับสูญหายหรือสูญหายอย่างไม่สมัครใจกับผู้สื่อข่าวพิเศษขององค์การสหประชาชาติสามคนได้ออกคำแถลงร่วมมาฉบับหนึ่งเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2562 แสดงความกังวลเกี่ยวกับกรณีของออดนี้[1]
เรายังปรารถนาจะขอให้สนใจเป็นพิเศษต่อรายงานว่า อิทธิพล สุขแป้น, วุฒิพงษ์ คชาธรรมากุล, สุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์, ชัชชาญ บุปผาวรรณ และไกรเดช ลือเลิศ คนไทยห้าคนผู้วิพากษ์วิจารณ์พระราชวงศ์และรัฐบาลทหารของไทยและอาศัยลี้ภัยอยู่ในลาวนั้น ได้หายตัวไประหว่างเดือนมิถุนายน 2559 ถึงธันวาคม 2561 ในกรณีของสามคนหลัง มีการพบร่างของชัชชาญกับไกรเดชสามสัปดาห์ต่อมาบนฝั่งไทยของแม่น้ำโขง ถูกตัดเป็นชิ้นและยัดคอนกรีต ในขณะที่มีรายงานว่าร่างที่สามซึ่งอาจจะเป็นของสุรชัยโผล่มาใกล้กันแล้วก็หายไป การทดสอบดีเอ็นเอในเดือนมกราคม 2562 ยืนยันว่าสองร่างแรกเป็นของชัชชาญกับไกรเดช
เราขอเรียกร้องรัฐบาลลาวและรัฐบาลไทยให้สอบสวนกรณีเหล่านี้ตามมาตรฐานทางกฎหมายสากลโดยมุ่งไปหาว่าชะตากรรมของพวกเขาเป็นเช่นไรและพวกเขาอยู่ที่ไหน
ทั้งรัฐบาลลาวและรัฐบาลไทยมีพันธะทางกฎหมายที่จะต้องดำเนินการสอบสวนอย่างรวดเร็ว ถี่ถ้วน และไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด และนำทุกคนที่สงสัยว่ารับผิดชอบทางอาญาต่ออาชญากรรมภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ และต่อการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างเลวร้าย มาดำเนินการให้เกิดความยุติธรรมในการพิจารณาคดีที่เป็นธรรม
เรายังขอเรียกร้องให้รัฐบาลลาวและรัฐบาลไทยให้สัตยาบันอย่างไม่รอช้าต่ออนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการปกป้องทุกคนจากการถูกบังคับสูญหาย ซึ่งลาวและไทยได้ลงนามแล้วเมื่อเดือนกันยายน 2551 และมกราคม 2555 ตามลำดับ เพื่อนำบทบัญญัติของอนุสัญญาดังกล่าวมาบรรจุไว้ในกรอบกฎหมายในประเทศ นำไปใช้ในทางปฏิบัติ และยอมรับความสามารถของคณะกรรมการว่าด้วยการถูกบังคับสูญหายในการรับและพิจารณาการสื่อสารจาก หรือในนามของ เหยื่อหรือรัฐภาคีอื่น
ในท้ายที่สุด เราขอเรียกร้องให้ประชาคมสากลใช้โอกาสที่จะมีการทำ Universal Periodic Review (UPR) ของลาวที่จะมาถึง มาเรียกร้องให้รัฐบาลลาวสอบสวนการถูกบังคับสูญหายของสมบัติ สมพอน อย่างไม่รอช้าและอย่างมีประสิทธิผล UPR ครั้งที่สามของลาวมีกำหนดจะจัดขึ้นในวันที่ 21 มกราคม 2563 ในนครเจนีวา ประเทศสวิสเซอร์แลนด์
ในระหว่างที่มี UPR ครั้งที่สองในเดือนมกราคม 2558 รัฐสมาชิกขององค์การสหประชาชาติ 10 ประเทศ อันได้แก่ ออสเตรเลีย คานาดา ฟินแลนด์ เยอรมนี ลักเซ็มเบอร์ก โปแลนด์ โปรตุเกส สวีเดน สวิสเซอร์แลนด์ และสหราชอาณาจักรอังกฤษ แนะนำให้รัฐบาลลาวดำเนินการสอบสวนให้เพียงพอต่อการถูกบังคับสูญหายของสมบัติ
ตราบจนกระทั่งชะตากรรมและที่อยู่ของคนที่ถูกบังคับให้สูญหายได้รับการเปิดเผยออกมา ประชาคมสากลควรไม่หยุดเรียกร้องให้พวกเขาได้รับการนำตัวกลับมาสู่ครอบครัวอย่างปลอดภัย รัฐบาลลาวควรจะไม่อยู่ภายใต้ภาพลวงตาใดว่าการเรียกร้องของเราจะหายไป เราจะยืนกรานจนกระทั่งเราได้รับคำตอบที่แท้จริงของคำถามที่ว่า “สมบัติอยู่ที่ไหน?”
ลงนามโดย
บุคคล
Andy Rutherford
Anuradha Chenoy
David JH Blake
Glenn Hunt
Jeremy Ironside
Jessica diCarlo
Kamal Mitra Chenoy
Mary Aileen D. Bacalso
Miles Kenney–Lazar
Nico Bakker
Philip Hirsch
[1] OHCHR, Thailand/Lao PDR: UN experts concerned by disappearance of Lao human rights defender, 1 October 2019, available at: https://www.ohchr.org/EN/NewsEvents/Pages/DisplayNews.aspx?NewsID=25087&LangID=E
สมาคมสิทธิเสรีภาพของประชาชน (สสส.) Union for Civil Liberty (UCL.)